เมื่อนั่งอยู่ในรถยนต์ คุณแทบจะไม่ได้คำนึงถึงการทำงานของระบบพวงมาลัยหรือสิ่งที่ทำให้ระบบพวงมาลัยทำงานเลย อย่างไรก็ตาม ภายในรถยนต์มีส่วนประกอบสำคัญหลายอย่างที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ทุกคนขับขี่ได้ง่ายและปลอดภัยขึ้น หนึ่งในส่วนประกอบสำคัญเหล่านี้เรียกว่าแร็คแอนด์พีเนียน ในบทความนี้ เราจะกล่าวถึงการทำงานของระบบพวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พีเนียน ข้อดีและข้อเสีย วิธีแก้ไขปัญหาทั่วไปที่คุณอาจพบเจอ และเทคโนโลยีนี้พัฒนามาอย่างไรในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งเคล็ดลับด้านความปลอดภัยบางประการ มาดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบพวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พีเนียน และเหตุใดจึงมีความสำคัญกัน!
เมื่อคุณหมุนพวงมาลัยในรถ การกระทำดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่สำคัญมาก คุณกำลังหมุนเพลาที่หมุนเฟืองที่เรียกว่าพิเนียน ซึ่งเชื่อมต่อกับแท่งยาวที่เรียกว่าแร็คผ่านเฟืองพิเนียน เฟืองพิเนียนนี้มีฟันพิเศษบนแร็ค เมื่อคุณหมุนพวงมาลัย เฟืองพิเนียนก็จะหมุนด้วย การเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้แร็คเลื่อนจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง ส่งผลให้ล้อหน้าของรถหมุน นี่คือวิธีการบังคับเลี้ยวที่ช่วยให้คุณเลี้ยวได้ พวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พีเนียนนั้นเรียบง่ายและมีประสิทธิภาพ โดยรับประกันการใช้งานในรถยนต์มาช้านาน โดยเริ่มเห็นครั้งแรกในรถยนต์ในช่วงต้นทศวรรษปี 1900
หากระบบแร็คแอนด์พีเนียนของคุณทำงานได้ไม่ดี คุณอาจสังเกตเห็นปัญหาทั่วไปบางประการที่อาจเกิดขึ้นได้ ปัญหาเหล่านี้ได้แก่ พวงมาลัยแข็งและหมุนยาก สาเหตุของปัญหานี้อาจเกิดจากปั๊มพวงมาลัยเพาเวอร์ทำงานผิดปกติ ท่อแรงดันสูง หรือแม้แต่การอุดตันในท่อน้ำมันไฮดรอลิก เมื่อพวงมาลัยบังคับเลี้ยวได้ยาก อาจทำให้การขับขี่ท้าทายและเป็นอันตรายมากขึ้น
หากมีการรั่วไหลในระบบ แสดงว่าเป็นปัญหาทั่วไปอีกประการหนึ่งของระบบพวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พีเนียน การรั่วไหลอาจเกิดขึ้นได้เมื่อแร็คพวงมาลัยแตกร้าว เมื่อซีลได้รับความเสียหาย หรือหากมีปัญหากับเฟืองท้าย อย่างไรก็ตาม หากคุณสังเกตเห็นของเหลวหยดลงมาจากใต้รถจนเป็นวงแหวน และคุณรายงานว่ามีน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์เหลือน้อย คุณควรนำรถของคุณไปตรวจสอบโดยช่างผู้ชำนาญทันที การตรวจพบปัญหาดังกล่าวในระยะเริ่มต้นจะช่วยแก้ไขปัญหาได้ก่อนที่จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในภายหลัง
มีเคล็ดลับสำคัญสองสามข้อที่ควรปฏิบัติตามเพื่อให้ระบบแร็คแอนด์พีเนียนของรถของคุณทำงานได้อย่างถูกต้อง ในการเริ่มต้น ควรให้ช่างที่มีคุณสมบัติตรวจสอบระบบบังคับเลี้ยวและระบบกันสะเทือนของรถของคุณเป็นประจำ การตรวจสอบเป็นประจำจะช่วยระบุปัญหาได้ก่อนที่จะกลายเป็นเรื่องร้ายแรงและต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงในการแก้ไข ขั้นตอนเชิงรุกนี้จะช่วยให้มั่นใจได้ว่ารถของคุณจะปลอดภัยในการขับขี่